ความมันส์ของตลาดนี้คือซื้อขายได้ 24 ชั่วโมง ตอนเช้าเทรดตลาดญี่ปุน บ่าย 2 เทรดตลาดลอนดอน ตอนค่ำเทรดตลาดอเมริกา พอตลาดเมกาปิดก็มาเทรดตลาดญี่ปุ่นต่อไม่ต้องหลับต้องนอน เทรดใช้เงินนิดเดียวใด้เสียเป็นเท่าตัวและก็หมดเนื้อหมดตัวได้ในวันเดียวได้เช่นเดียวกัน หุหุ ตลาด forex ใหญ่มากครับวันนึงเทรดกันมหาศาล ดูในรูปที่เปรียบเทียบขนาดตลาด
คนในตลาดมีสองจำพวกครับพวกแรกคือ Hedger หรือผู้ป้องกันความเสี่ยง มีประมาณ 10%ของการซื้อขาย สมมติเขานำเข้าสินค้าจากเมกาชิ้นละ 1 ดอลล่าห์ (สมมติวันที่ตกลงซื้ออัตราและเปลี่ยนอยู่ที่ 31 บาทต่อ 1 ดอลล่าห์) เอามาขายในไทย 40 บาท ได้กำไร 9 บาท แต่สมมติีอีกว่าวันที่จ่ายเงินค่าของที่นำเข้ามาอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 36 บาทแทนที่จะได้กำไร 9 ก็เหลือเพียง 4 บาทหักต้นทุนนู่นนี่นั่นแล้วขาดทุนกระจาย เขาเลยป้องกันความเสี่ยงโดยการโทรไปหาธนาคารตอนวันที่ตกลงซื้อจากเมกา บอกว่าขอซื้อดอลล่าล่วงหน้าที่ 31 บาท พอถึงวันส่งมอบของชำระเงินจริงผู้นำเข้าก็ได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ 31 บาท ควบคุมต้นทุนได้
อีกพวกหนึ่งคือ speculator หรือนักเกร็งกำไร มีประมาณ 90% ของการซื้อขาย พวกนี้เขาไม่ได้นำเข้าส่งออกสินค้าอะไรทั้งสิ้น มีเงินมาดูกราฟแล้วก็ซื้อๆขายๆ ได้เงินก็ดีใจ เสียเงินก็หดหู่ พวกนี้วันๆไม่ทำอะไรครับลุ้นกันตัวเกร็งทั้งวัน เหมือนเข้าบ่อนเล่นไฮโลยังไงก็ไม่รู้ เหมาะกับพวกเล่น day trade มากครับ
ปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงินที่ต้องรู้มีอะไรบ้าง สรุปมาจากการบรรยายของ k-bank ครับ
* ค่าเงินจะขึ้นกับสภาพเศษฐกิจ ทุกวันศุกร์ประมาณ 1 ทุ่ม เมกาก็จะประการตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เช่น อัตราการว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ ยอดขายปลีก ฯลฯ ตัวเลขไม่ดีค่าเงิน USD ก็อ่อน ตัวเลขดีค่าเงิน USD ก็แข็ง เขาเทรดกันแค่นี้แหละไม่ต้องคิดมาก
* สงคราม เวลาเมกาสำแดงเดชไปถล่มประเทศนู้นี้นั้น ก็ต้องใช้เงินเยอะ ค่าเงิน USD ก็อ่อน
* น้ำมัน ทอง หุ้น อยู่ตรงข้ามกับ USD วันไหนทองราคาขึ้น USD ก็อ่อน
* ค่าเงินประเทศอื่น ยูโร หยวน บาท อยู่ตรงข้ามกับ USD (หยวน กับ บาท วิ่งทางเดียวกัน)
* ตอนนี้ เมกากลัวจีนมากเพราะเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ จะบีบก็ตายจะคลากก็รอด
* ตอนต้นปี 54 ทุกคนคิดว่า USD พังแน่ค่าเงินต้องอ่อน แต่ปลายปี euro เจ้งซะงั้น คนก็เลยแห่กันมาซื้อ USD ทำให้เงินแข็งซะงั้น คาดการณ์ผิดหมด 555 ตอนนี้ค่าเงินก็เลยผันผวนทั่วโลก เพราะเมกาก็ยังเศรษฐกิจไม่ดีมาเท่าไร
trick
* ทองจะขึ้นช่วง มีนา-เมษา
เหตุผล : ญี่ปุ่นเป็นผู้ให้กู้ดอกเบี้ยต่ำรายใหญ่ของโลก ช่วง มีนา-เมษา ทั่วโลกแห่กันมาใช้หนี้ ญี่ปุ่น รวมถึ่งเงินปันผลจากบริษัทลูกๆของญี่ปุ่นที่กระจายทั่วโลก เข้ามาช่วงนี้ คนก็แห่กันขาย USD ซื้อ YEN พอ USD อ่อนทองก็ขึ้น
* ช่วงบ่ายสอง ราคาจะสวิงกิ้งมากเพราะตลาดลอนดอนเปิด
Credit >> http://www.investidea.in.th/2011/12/blog-post_29.html