ขั้นต่อมาก็ประมาณการต้นทุน ก็สังเกตุอีกว่าต้นทุนขายปีนี้เท่ากับ 50 ล้านบาทและโตในอัตราเดียวกับยอดขาย ก็เดาอีกว่าปีนี้ก็คงเหมือนเดิมโต 20% เหมือนกับยอดขาย
ส่วนต้นทุนที่เหลือก็เท่าเดิมที่20ล้านมา 10 ปีแระก็ให้เป็นค่าคงที่ไป
สรุปว่ากำไรปีหน้าเท่ากับ
กำไรปีหน้า = ยอดขายปีหน้า-ต้นทุนขายปีหน้า-ต้นทุนคงที่
120-60-20 = 40ล้าน ..........เย้
2. ค่า PE ที่เหมาสมของอุตสาหกรรมคือ 10 เท่า
ดังนั้นราคาที่เหมาะสมคือ 40*10= 400 ล้านบาท (ทั้งบริษัทมีหุ้นเดียว)
3 ราคาตลาดของหุ้นตัวนี้อยู่ที่ 200 ล้านบาท ต่ำกว่าราคาที่เหมาะสมที่ 400 ล้านบาทมาก เห็นดังนี้ก็รีบขายบ้า้้นขายรถมาซื้อ
ดูผ่านๆไปก็เหมือนดูดี ทุกอย่างไม่มีความคิดเราเข้ามาเกี่ยวข้องใช้เครื่องมือทางคณิตศาสตร์ซึ่งไม่เคยโกหกใครอย่างเดียว แต่นี่ก็เป็นอคติอย่างหนึ่งคือมีอคติว่ามันไม่มีอคติ ในตัวอย่างเราบอกว่ายอดขายปีหน้าจะโต 20% ก็ต้องถามกลับว่าเหตุมันเหมือนเดิมหรือเปล่า เมื่อเหตเปลี่ยน ผลก็เปลี่ยน ยกตัวอย่างบริษัท CEI ทำพัดลมติดเพดานยอดขายโตทุกปีวันดีคืนดีลูกค้ารายใหญ่หนีไปสั่งผลิดที่จีนยอดขายหายไป 90% แล้วไม่กลับมาอีกเลย สถิติทุกอย่างที่หามาใช้ไม่ได้ในวันเดียว จนบัดนี้(พ.ศ.2554)ก็ัยังตอบไม่ได้ว่าเลิกผลิตพัดลมแล้วจะทำอะไรให้บริษัทมีกำไร ตอนนี้ก็ขายของเก่ากินไปเรื่อยๆ
สรุปว่า จะวิเคราะห์หุ้นก็ต้องมองหุ้นตามความเป็นจริง เห็นอย่างที่มันเป็น ก็คือไตรลักษ์คือทุกสิ่งมีเหตุก็เกิดหมดเหตุก็ดับบังคับไม่ได้ แล้วอยู่กับหุ้นอย่างมีความสุขครับ
Credit >> http://www.investidea.in.th/2011/12/blog-post_21.html