เมื่อไม่นานมานี้ Mark Minervini หนึ่งในเซียนหุ้นของอเมริกา ได้เขียนบล็อคส่วนตัวของเขาซึ่งพูดถึงสาเหตุที่ทำให้หุ้นลง โดย Mark บอกว่า ตัวเค้าก็ถูกถามตลอดเวลาเช่นกันว่า “หุ้นตัวนี้พื้นฐานก็ดี แต่ทำไมหุ้นถึงลง?”
ซึ่ง Mark ก็ตอบคำถามด้วยคำตอบสั้นๆง่ายๆว่า หุ้นมันลงก็เพราะ มีคนขายมากกว่าคนซื้อ ซึ่งเป็นไปตามหลักพื้นฐานในตลาด หรือกฏของ Demand Supply เท่านั้นเอง
และเขายังกล่าวอีกด้วยว่า สาเหตุ ที่ทำให้หุ้นขึ้นหรือลงนั้น จริงๆเราไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ สิ่งที่จำเป็นต้องเรียนรู้คือ การสังเกตพฤติกรรมของหุ้นผ่านทาง Price & Volume Action ต่างหาก
ใช่แล้วครับ! เหตุผลง่ายๆและจริงที่สุดที่ทำให้หุ้นลงก็เป็นอย่างที่ Mark ว่า ก็คือ มีคนขายมากกว่ามีคนซื้อ
เมื่อ Supply มากกว่า Demand จึงทำให้ราคาลดลง และบ่อยครั้งที่กว่านักลงทุนทั่วไปจะรับรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้หุ้นราคาลงมาอย่างรุนแรง ก็มักจะสายเกินกว่าที่จะหลีกเลี่ยงการขาดทุนไปแล้ว หรือในทางตรงกันข้าม คุณอาจจะพลาดกำไรก้อนโตไปเสียแล้ว เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มักจะมี ราคาเป้าหมาย หรือ ราคาที่ควรจะเป็น ของหุ้นที่ตัวเองสนใจอยู่เสมอ เมื่อราคาที่ปรากฏในตลาดนั้นแตกต่างไปจากสิ่งที่ตัวเองคิด ก็มักจะทุ่มเทความพยายามไปกับการค้นหาคำตอบว่าทำไมมันถึงไม่เป็นไปตามที่ตนได้คิดคำนวนเอาไว้
มีประโยคหนึ่งที่ Mark ได้ฝากเอาไว้ให้กับเหล่านักลงทุนว่า “A stock is like a painting, It’s only worth what someone else is willing to pay” หรือ “หุ้นก็เปรียบเสมือนกับภาพเขียน มันมีมูลค่าเท่าที่คนอื่นพอใจจะซื้อเท่านั้น”
ดังนั้น อย่ามัวยึดติดอยู่กับราคาที่คุณคาดหวังจะให้หุ้นของคุณเป็น เพราะคุณไม่ใช่คนกำหนดราคาหุ้น แต่ตลาดคือคนกำหนดราคาของหุ้นผ่านทาง Price & Volume Action ของหุ้นแต่ละตัวนั่นเอง
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายๆท่านอาจจะไม่เห็นด้วย หรือรู้สึกว่าสิ่งที่ผมพยายามพูดถึงนั้นมันขัดกับหลักการลงทุนของตัวท่าน หลายท่านอาจจะคิดในใจขึ้นมาว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ การที่เราไม่รู้สาเหตุของการขึ้นหรือลงของหุ้นแต่ละตัว แล้วเราจะมั่นใจได้ยังไงว่าหุ้นตัวนั้นมันจะขึ้นหรือมันจะลง?
คำตอบก็คือ การฝึกสังเกต Price & Volume Action อย่างที่ Mark ได้พูดถึงนั่นเองครับ
Credit >> http://www.sarut-homesite.net